จุดประสงค์การเรียนรู้
เมื่อศึกษาหน่วยนี้แล้วนักศึกษาควรมีความสามารถในสิ่งต่อไปนี้
1. นักศึกษาบอกความหมายของกำหนดการเชิงเส้นได้
2. นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจกราฟของสมการและอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
3. นักศึกษาสามารถหาสมการจุดประสงค์ได้
4. นักศึกษาสามารถหาอสมการข้อจำกัดได้
5. นักศึกษาประยุกต์ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ โดยใช้กราฟได้
ความหมายของกำหนดการเชิงเส้น
กำหนดการเชิงเส้น (Linear Programming) หมายถึง ในการทำการประกอบกิจการธุรกิจและอุตสาหกรรมตลอดจนทางด้านวิทยาศาสตร์ มีความจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจเพื่อที่จะทำได้ปริมาณบางอย่างมีค่ามากที่สุดหรือมีค่าน้อยที่สุด เช่นนำมาใช้ในการจัดสรรทรัพยากร หรือปัจจัยที่มีอย่างจำกัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือสูญเสียน้อยที่สุดในการดำเนินงาน
ตัวอย่างปัญหากำหนดการเชิงเส้น
1. ผู้ขายสินค้าต้องเลือกชนิดของสินค้าที่จะนำมาขาย เพื่อให้ขายได้ผลกำไรมากที่สุด
2. ผู้จัดรายการโทรทัศน์ต้องการเลือกแบบรายการแสดงเพื่อให้ผู้ชมรายการแสดงมากที่สุด
3. ต้องการจ้างคนงานก่อสร้างเพื่อให้งานเสร็จตามเวลาที่กำหนดในราคาต่ำสุด
ปัญหาต่าง ๆ ตามตัวอย่าง จะมีค่ามากที่สุด หรือ สูงสุด น้อยที่สุดหรือต่ำสุดอยู่เสมอและมีเงื่อนไขอื่น ๆ ประกอบด้วย เราสามารถที่จะตัดสินใจได้หรือตอบปัญหาเหล่านี้ได้ ก็ต้องกำหนดสมการเชิงเส้น เพื่อช่วยในการแก้ปัญหาเหล่านี้ การกำหนดสมการเชิงเส้นทำได้โดยการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ขึ้นมาโดยที่แบบจำลองนั้นจะประกอบด้วย 2 ส่วน
1. สมการจุดประสงค์ (สร้างจากความต้องการที่เกี่ยวกับมากที่สุด น้อยที่สุด)
2. อสมการข้อจำกัด (สร้างจากเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เป็นส่วนประกอบเพื่อให้ได้ความต้องการที่เกี่ยวกับมากที่สุด น้อยที่สุด
การหาคำตอบของกำหนดการเชิงเส้น
การหาคำตอบของกำหนดการเชิงเส้น ดำเนินการดังนี้
1. นำปัญหามาสร้างแบบจำลองคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย
1.1 สมการจุดประสงค์
1.2 กลุ่มอสมการเงื่อนไข
1.3 ตัวแปรทุกตัวมากกว่าหรือเท่ากับศูนย์
2. เขียนกราฟของอสมการข้อจำกัด ของทุกอสมการ แล้วแรเงา บริเวณที่หาคำตอบได้(feasible region) ได้แก่บริเวณที่ผลลัพธ์ของตัวแปรทั้งสองเป็นคำตอบได้
3. เขียนจุดยอดมุม (extreme points) ของรูปสี่เหลี่ยมที่เกิดจากการแรเงา
4. ตรวจสอบว่าจุดยอดมุมตามข้อ 3 จุดใดที่ให้ค่าสูงสุดหรือต่ำสุด ตามที่โจทย์กำหนดโดยการแทนค่าหรือ
5. การตรวจสอบโดยการเลื่อนเส้นตรงที่สร้างจากสมการจุดประสงค์ที่ผ่านจุด (0,0) เข้าไปในบริเวณที่หาคำตอบได้ จุด (x,y) จุดแรกที่พบจะให้ค่าต่ำสุดจุดสุดท้ายของ (x,y) ที่พบจะให้ค่าสูงสุด
การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์
ตัวอย่างที่ 1 ในการผลิตสินค้า 2 ชนิด ชนิดที่หนึ่งได้กำไร 5 บาท ต่อชิ้น ชนิดที่สองได้กำไร 7 บาทต่อชิ้น สินค้าชนิดที่หนึ่งต้องใช้เวลาผลิต 3 นาที และใช้วัตถุดิบ 10 หน่วย ชนิดที่สองใช้เวลาผลิต 4 นาที และใช้วัตถุดิบ 8 หน่วย สมมุติว่าโรงงานมีเครื่องจักรที่จำกัด จะผลิตสินค้าทั้งสองชนิดพร้อม ๆ กัน ไม่ได้ และทำการผลิตเพียงวันละ 7 ชั่วโมง มีวัตถุดิบเพียงพอที่จะผลิตได้วันละ 200 หน่วย ถ้าต้องการผลิตให้ได้กำไรมากที่สุด ในแต่ละวัน จงสร้างตัวแบบจำลองทางคณิตศาสตร์กำหนดการเชิงเส้นแทนปัญหาการผลิตสินค้านี้
วิธีทำ
สินค้าชนิดหนึ่ง
|
สินค้าชนิดที่สอง
| ||
เวลาที่ใช้ผลิตวัตถุดิบ
|
3 นาที/ชิ้น
10 หน่วย
|
4 นาที/ชิ้น
8 หน่วย
|
วันละไม่เกิน7 ชั่วโมง
มีไม่เกิน200หน่วย
|
กำไร
|
5 บาท
|
7 บาท
|
ให้
เป็นจำนวนสินค้าชนิดที่หนึ่งที่ผลิต

ให้
เป็นจำนวนสินค้าชนิดที่สองที่ผลิต

ดังนั้น กำหนดการเชิงเส้น จะมีตัวแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ดังนี้
ให้ค่าสูงสุดของ P = 5
+ 7
(กำไร)


เมื่อ 3
+ 4
420 (เวลา)



10
+8
200 (วัตถุดิบ) และ
0,
0







ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าสูงสุดของ P ตามเงื่อนไขที่กำหนดให้
P = 4x+5y
x+2y
16

3x+ y
18

x
0

y
0

วิธีทำ
P = 4x+5y
x+2y
16

3x+ y
18

x
0

y
0

จะได้กราฟของอสมการข้อจำกัดดังนี้ (มีกราฟเป็นรูปสี่เหลี่ยมตามที่แรเงาซึ่งรวมถึงด้านทั้งสี่ด้วย)

หาพิกัดของจุด B ให้ x+2y = 16 ………….(1)
3x+ y = 18 ………….(2)
(1)×3, 3x+6y = 48 ………….(3)
(3)-(2) 5y = 30
y = 6
แทนค่า y = 6 ใน (1)

x = 16-12 = 4
จะได้พิกัดของจุด B คือ (4,6)
ตรวจสอบจุดมุม O,A,B และ C ของ สี่เหลี่ยม OABC เพื่อดูค่า Z
จุดมุม (x, y)
|
P = 4x +5y
|
O(0,0)
A(6,0)
B(4,6)
C(0,8)
|
0
24
46
40
|
ตัวอย่างที่ 3 ช่างตัดเสื้อมีผ้าไหมสีพื้น 16 เมตร ผ้าไหมลายดอก 15 เมตร และผ้าฝ้าย 11 เมตร ถ้าต้องการนำผ้าไหมและผ้าฝ้ายดังกล่าวมาตัดชุดกลางวันและชุดราตรีโดยชุดกลางวันแต่ละชุดใช้ผ้าไหมสีพื้น2 เมตร ผ้าไหมลายดอก 1 เมตร ผ้าฝ้าย 1 เมตร และขายได้กำไรตัวละ 300 บาท ส่วนชุดราตรีแต่ละชุดใช้ผ้าไหมสีพื้น 1 เมตร ผ้าไหมลายดอก 3 เมตร ผ้าฝ้าย 2 เมตร และขายได้กำไรตัวละ 500 บาท ช่างตัดเสื้อผ้าควรตัดชนิดละกี่ชุด เมื่อขายจะทำให้ได้กำไรมากที่สุดและกำไรมากที่สุดเท่าใด
วิธีทำ ตัวแปรคือจำนวนชุดกลางวันและชุดราตรี โดยมีผ้าที่จะใช้ตัดให้ได้กำไรที่สุดเป็น
P บาท โดยชุดกลางวัน x ชุด ตัดชุดราตรี y ชุด

สมการ P = 300x+500y เรียกว่า “สมการจุดประสงค์”
ตัดชุดกลางวัน x ชุด แต่ละชุดใช้ผ้าไหมสีพื้น 2x เมตร ผ้าไหมลายดอก 1x เมตร ผ้าฝ้าย 1x เมตร
ตัดชุดราตรี y ชุด แต่ละชุดใช้ผ้าไหมสีพื้น 1y เมตร ผ้าไหมลายดอก 3y เมตร ผ้าฝ้าย 2y เมตร
มีผ้าไหมสีพื้น 16 เมตร ผ้าไหมลายดอก 15 เมตร และผ้าฝ้าย 11 เมตร


x+ y
15

x+2y
11

ทั้งนี้ x
0 , y
0


อสมการทั้งหมดนี้เรียกว่า “ อสมการข้อจำกัด” แบบจำลองทางคณิตศาสตร์สำหรับข้อนี้
คือ P = 300 x+500y


x+ y
15

x+2y
11

x
0

y
0

นำอสมการทั้งหมดนี้เขียนกราฟ


จาก P = 300 x+500y
ณ จุด A(0, 0); P = 0 ณ จุด B(8, 0); P = 2,400
ณ จุด C(7, 2); P = 3,100 ณ จุด D(0, 5.5); P = 2,750

ให้ตัดชุดกลางวัน 7 ชุด
ตัดชุดราตรี 2 ชุด ได้กำไรมากที่สุด 3,100 บาท
ตัวอย่างที่ 4 เจ้าของกิจการต้องการทำความสะอาดตู้ 5 ตู้ โต๊ะ 12 ตัวและชั้นหนังสือ 18 ชั้น เขามีคนงาน 2 คน คนแรกสามารถทำความสะอาดตู้ได้ 1 ตู้ โต๊ะ 3 ตัว และชั้นหนังสือ 3 ชั้น ภาย ในเวลา 1ชั่วโมง คนที่สองสามารถทำความสะอาดตู้ได้ 1 ตู้ โต๊ะ 2 ตัว และชั้นหนังสือ 6 ชั้น ภาย ในเวลา 1 ชั่วโมง คนแรกได้ค่าแรงชั่วโมงละ 25 บาท คนที่สองได้ค่าแรงชั่วโมงละ 22 บาท เพื่อจะเสียค่าแรงน้อยที่สุดเจ้าของกิจการควรจ้างทำคนละกี่ชั่วโมง
วิธีทำ
ให้คนแรกทำ x ชั่วโมง
คนที่สองทำ y ชั่วโมง
โดยเสียค่าแรงน้อยที่สุด P บาท

คนแรกทำ x ชั่วโมง จะทำความสะอาดตู้ได้ 1x ตู้ โต๊ะ 3x ตัว และชั้นหนังสือ 3x ชั้น
คนที่สองทำ y ชั่วโมง จะทำความสะอาดตู้ได้ 1y โต๊ะ 2y ตัว และชั้นหนังสือ 6y ชั้น


3x +2y
12

3x +6y
18

x
0

y
0




(x, y)
|
P = 25 x+ 22 y
|
(0, 6)
(2, 3)
(4, 1)
(6, 0)
|
132
116
122
150
|
ค่าต่ำสุด = 116 ณ B(2,3)
จ้างคนแรกทำงาน 2 ชั่วโมง

จ้างคนที่สองทำงาน 3 ชั่วโมง
ตัวอย่างที่ 5 ในการผลิตปุ๋ยชนิดหนึ่งต้องการผลิตให้ได้ต้นทุนถูกที่สุด โดยให้ปุ๋ยที่ได้มีแร่ธาตุ N-P-K อย่างน้อย 9,5 และ 6 หน่วย ตามลำดับในปุ๋ย 100 ปอนด์ ของสารอาหาร x และ 100 ปอนด์ของสารอาหาร y ให้แร่ธาตุ N – P – K ตามตารางและสมมุติราคาสารอาหาร x และ y เป็น 3 บาทและ5 บาท ต่อ 100 ปอนด์ ตามลำดับ ดังนั้น จะต้องใช้สารอาหาร x และสารอาหาร y อย่างละเท่าไร
แร่ธาตุ
|
น้ำหนัก
|
จำนวนที่ต้องการอย่างน้อย
| |
สารอาหาร x
|
สารอาหาร y
| ||
N (ไนโตรเจน)
P (ฟอสฟอรัส)
K (โปตัสเซียม)
|
1 หน่วย
1 หน่วย
2 หน่วย
|
3 หน่วย
1หน่วย
1 หน่วย
|
9 หน่วย
5 หน่วย
6 หน่วย
|
ราคาสารอาหาร ต่อ 100 ปอนด์
|
3 บาท
|
5 บาท
|
วิธีทำ
ให้ x แทนจำนวนหน่วยของสารอาหาร x ที่ใช้ในหน่วย 100 ปอนด์ และให้ y แทนจำนวนหน่วยของสารอาหาร y ที่ใช้ในหน่วย 100 ปอนด์ เขียนข้อมูลที่ได้ในตัวแบบกำหนดการเชิงเส้น ได้ดังนี้
ให้ค่าต่ำสุดของ C = 3x + 5y
x +3y
9

x + Y
5

2 x +y
6 และ x
0, y
0



เขียนกราฟแสดงขอบเขตที่เป็นไปได้ ดังต่อไปนี้
ขอบเขตที่เป็นไปได้ คือส่วนที่แรเงามี A,B,EและF เป็นมุมที่เป็นไปได้จะสามารถแก้สมการหาพิกัดของมุมทั้งสี่ได้อย่างง่าย และหาค่า C = 3x + 5y ที่สอดคล้องกับค่า (x,y) ณ มุมทั้งสี่ที่หาได้ดังตารางต่อไปนี้
มุม
|
พิกัดของมุมที่เป็นไปได้
|
ค่า C = 3x + 5y
|
A
B
E
F
|
(9,0)
(3,2)
(1,4)
(0,6)
|
27
19
23
30
|
ดังนั้นผลเฉลยเหมาะที่สุด คือ ค่า C ต่ำที่สุดอยู่ที่มุม B(3,2) นั่น คือ จะต้องซื้อสารอาหาร x จำนวน 300 ปอนด์ สารอาหาร y จำนวน 200 ปอนด์ และจะเสียค่าใช้จ่ายต่ำสุดเพียง 19 บาท
ข้อสังเกต จากแผนการหาส่วนผสมปุ๋ยตามตัวอย่างนี้ จะพบว่าในส่วนผสมดังกล่าว เราได้ธาตุ N และ P พอดีกับจำนวนขั้นต่ำที่ต้องการ แต่ได้แร่ธาตุ K เพิ่มขึ้นกว่าจำนวนขั้นต่ำถึง 2 หน่วย
ตัวอย่างที่ 6 บริษัทผลิตกระดาษโรเนียวแห่งหนึ่ง มีโรงงานผลิตกระดาษ 2 แห่ง แต่ละแห่งผลิตกระดาษที่มีคุณภาพแตกต่างกัน 3 ชนิด คือ ชนิดเลว ปานกลาง และชนิดดี บริษัทต้องการผลิตกระดาษต้องการผลิตกระดาษคุณภาพชนิดเลว 16 ตัน ชนิดปานกลาง 5 ตัน และชนิดดี 20 ตันทั้งนี้ เพราะต้องการผลิตให้พอดีกับปริมาณที่ลูกค้าสั่งซื้อ ค่าใช้จ่ายในการผลิตกระดาษจากโรงงานที่ 1 วันละ 25,000 บาทโรงงานที่ 2 วันละ 50,000 บาท ซึ่งแต่ละโรงงานจะผลิตกระดาษแต่ละวันได้ ดังต่อไปนี้
โรงงานที่ 1 ผลิตกระดาษคุณภาพชนิดเลวได้ 8 ตัน ปานกลางได้ 1 ตัน และชนิดดีได้ 2 ตัน
โรงงานที่ 2 ผลิตกระดาษคุณภาพชนิดเลวได้ 2 ตัน ปานกลางได้ 1 ตัน และชนิดดีได้ 7 ตัน
จงสร้างตัวแบบกำหนดการเชิงเส้นแทนปัญหานี้โดยต้องการหาเวลาการผลิต (หน่วยเป็นวัน) ที่เหมาะสมเพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด
วิธีทำ สร้างตารางแสดงข้อมูลต่าง ๆ จากโจทย์ ได้ดังต่อไปนี้
ปริมาณกระดาษที่ผลิตต่อวัน(ตัน)
|
ค่าใช้จ่ายต่อวัน(บาท)
| |||
ชนิดเลว
|
ชนิดปานกลาง
|
ชนิดดี
| ||
โรงงาน 1
โรงงาน 2
|
8
2
|
1
1
|
2
7
|
25,000
50,000
|
ความต้องการ
|
16
|
5
|
20
|
ให้ x1 แทนจำนวนที่ผลิตกระดาษของโรงงานที่ 1
ให้ x2 แทนจำนวนที่ผลิตกระดาษของโรงงานที่ 2
ดังนั้นตัวแบบกำหนดการเชิงเส้นจะได้ ดังต่อไปนี้
ให้ค่าต่ำสุด P = 25,000 x1+50,000 x2 (ค่าใช้จ่าย)
เมื่อ 8x1+2x2
16 (ปริมาณกระดาษชนิดเลว)

x1+x2
5 (ปริมาณกระดาษชนิดปานกลาง)

2x1+7x2
20 (ปริมาณกระดาษชนิดดี)

x1
0, x2
0


เขียนกราฟของเงื่อนไขบังคับได้ดังต่อไปนี้
ขอบเขตที่เป็นไปได้เป็นเซตอนันต์ ซึ่งประกอบด้วยจุดมุมที่เป็นไปได้ต่อไปนี้ (0,8),(1,4),(3,2) และ (10,0)
เปรียบเทียบค่า P ณ จุดมุมทั้งสี่ดังต่อไปนี้
มุม
|
ค่า P = 25,000 x1+50,000 x2
|
(0,8)
< | |
กำหนดการเชิงเส้น | |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น